ค้นหา
Bye Bye ไขมันใต้คาง กับการกำจัดออกด้วยความเย็น : เมื่อมีเหนียงใครๆก็อยากเอาออก .. ถึงคราวหมอบ้างสิเนอะ
^^ สวัสดีค่ะ หมอเชอร์รี่นะคะ ตั้งชื่อ บทความแบบนี้ ตามที่อยากให้ทุกท่านได้เข้าใจง่ายๆเลยค่ะ อันเนื่องมาจากวันที่ 24-26 พค.17 ที่ผ่านมา หมอมีโอกาสดีๆในการได้รับเชิญไปอบรม Coolsculpting University ที่ฮ่องกงค่ะ โดยตัองบอกว่า เป็นการอบรมแบบเข้มข้นตั้งแต่เช้าจรดค่ำมาก เกี่ยวกับเทคโนโลยี update ในการสลายไขมันด้วยความเย็น หรือที่หลายๆท่านน่าจะเคยได้ยิน/ รู้จักกันในชื่อของ Coolsculpting กันมาบ้างแล้ว
 
(หมายเหตุ : "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”) 
  ในการอบรมนี้มีคุณหมอและพยาบาล จากหลายประเทศไม่เพียงแต่ในภูมิภาคเอเชียที่เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ค่ะ ทำให้หมอมีโอกาสได้พูดคุยและแชร์ประสบการณ์กับคุณหมอและวิทยากรหลายๆท่านในงานครั้งนี้ถึงเรื่องการดูแลสัดส่วนและรูปร่าง โดยใช้เทคโนโลยีที่ปลอดภัย ไม่ต้องพักฟื้นแบบ Coolsculpting
 
ดังนั้นเมื่อกลับมาทำงาน เลยตื่นเต้นและไม่รอช้าที่จะมาทำการกำจัดไขมันตัวเองที่ใต้คางค่ะ เกริ่นมาซะยาวเลย แต่ต้องขอออกตัวก่อนว่า บทความนี้เขียนขึ้นวันที่ 31 พค.17 หลังจากที่หมอได้ทำ Coolsculpting ที่ใต้คางโดยใช้ Coolmini Applicator เป็นครั้งแรกค่ะ ซึ่งบทความนี้จะขอเล่าถึงขั้นตอนในการทำ และการเตรียมตัวก่อนทำ การดูแลหลังทำ ไปก่อนนะคะ ส่วนผลที่ได้จะมาลงอัพเดทให้ในบทความถัดๆไป เนื่องจากการประเมินผลที่จะได้รับจากการทำ Coolsculpting นี้จะชัดเจนเมื่อผ่านไป 2-3 เดือนค่ะ
 
(หมายเหตุ : "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
(หมายเหตุ : "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
#Coolsculpting เป็นการใช้เทคโนโลยีความเย็นในการช่วยกำจัดไขมันค่ะ 

ขออธิบายถึงวิธีการคร่าวๆ แบบเข้าใจง่ายๆ คือ เมื่อจับได้ไขมันตรงไหน ..ใช้ความเย็น -11 ถึง -13 องศาเซลเซียส ปล่อยลงไป Freeze Fat Cell จะทำให้เซลล์ไขมันบริเวณนั้นถูกกำจัดออกและลดลงประมาณ 20-30% ค่ะ ( โดยจะสังเกตเห็นผลจากการทำครั้งแรกประมาณ 2-3 เดือนถัดไปค่ะ )
 
(หมายเหตุ : "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”) 
  
ซึ่งเซลล์ไขมันจะไม่มีการแบ่งตัวใหม่ ดังนั้นเมื่อถูกกำจัดออกไปเซลล์ไขมันส่วนนั้นจะหายไปเลยนะคะ เท่ากับว่า จำนวนเซลล์ไขมันในร่างกายเราจะลดลง หากหลังการทำพอใจกับการรักษาครั้งแรก ก็เพียงพอและไม่ต้องทำซ้ำค่ะ แต่หากท่านที่ต้องการให้จำนวนเซลล์ไขมันบริเวณนั้นลดลงอีก ก็สามารถทำซ้ำได้ในเดือนถัดไปค่ะ
 
  การรักษาด้วยเครื่อง CoolSculpting ทำได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง เหมาะกับคนที่ไม่ผอมมากหรืออ้วนมากเกินไป แต่มีส่วนเกินที่ออกกำลังกายก็ลดไม่ได้ และส่วนที่ลดไม่ได้นั้นเป็น"ไขมัน" เช่น เหนียง คางสองชั้น เนื้อที่ย้อยบริเวณด้านหลังใต้เสื้อใน พุง ต้นขา ต้นแขน

โดยที่การสลายไขมันด้วยความเย็นนี้ยังใช้กำจัดไขมันสะสมบริเวณหน้าอกและข้างเอว หรือSixpacks ในเพศชายได้ผลดีอีกด้วยค่ะ

หลังทำไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น และกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกตินะคะ
 
ติดตามชมหมอขณะทำจาก ลิงค์นี้กันได้เลยค่ะ https://www.facebook.com/55laser/videos/1349133951834635/

(หมายเหตุ : "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”) 
 
เครื่องนี้สำหรับหัว Coolmini Applicator ใช้เวลาทำ 45 นาทีค่ะ ซึ่งสำหรับแต่ละบริเวณจะใช้เวลาทำแตกต่างกันออกไปมีตั้งแต่ 35,45,60 และ 75 นาทีค่ะ

ช่วงขณะที่ทำ 3 นาทีแรกจะไม่ค่อยรู้สึกอะไรมาก แต่พอเริ่มนาทีที่5 เป็นต้นไปจะรู้สึกเย็นมากๆบริเวณที่ทำค่ะ คล้ายๆกับมีน้ำแข็ง หรือ ถุง Ice pack มาจ่อไว้ตลอดเวลา ความรู้สึกเย็นจัดแบบนี้จะเริ่มเปลี่ยนเป็นชา และชิน หลัง 10 นาทีผ่านไปค่ะ ^^ ต้องเล่าให้เห็นภาพ เพราะหมอรู้สึกแบบนี้จริงๆ
 
โดยภาพด้านล่างนี้ถ่ายหลังทำเสร็จจะสังเกตเห็นความแดงเล็กน้อยใต้คางหมอ ซึ่งเกิดจากความเย็น-11 องศาเซลเซียสและจะค่อยๆดีขึ้น ไม่เป็นอันตรายกับผิวหนังบริเวณข้างเคียงนะคะ ไม่ต้องทายาชาขณะทำค่ะ

เมื่อทำเสร็จ หมอก็ทำงานต่อตามปกติได้ค่ะ ไม่มีอะไรต้องกังวล ที่เหลือคือ รอผล^^หลังจากนี้อีก 2 เดือนจะกลับมาอัพเดทพร้อมภาพให้ทุกท่านทราบกันนะคะ ^^

หากใครมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถแวะมาที่ 55Th Clinic, Silom Complex ชั้น3 ได้ทุกเมื่อนะคะ หมอและคุณหมอทุกคนที่นี่ยินดีให้คำปรึกษาและตอบทุกคำถามเสมอค่ะ ;)
 
 
บทความโดย พญ.สุรัติ อัศวานุชิต ( หมอเชอร์รี่ )
แพทย์ประจำ 55th Clinic
 
55th Clinic เปิดบริการในอาคาร Silom Complex ชั้น3
• BTS ศาลาแดง • MRT สีลม
• 02-2313394 , • 092-2738067
• Line@ : @55thclinic (*มี@ด้วยค่ะ)
• www.55laser.com
(หมายเหตุ : "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)

 

กำจัดไขมันส่วนเกินโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น

อุปกรณ์ใช้งานแต่ละตัวมี ประสิทธิภาพแตกต่างกัน
การรักษาด้วยเครื่อง CoolSculpting ใช้เทคโนโลยี Freeze Detect® มีสิทธิบัตรรับรอง ทำให้มั่นใจว่ามีความปลอดภัยเหนือกว่า
รับรองโดย CE Mark Class IIa และผ่านการตรวจประเมินโดย FDA ว่ามีความปลอดภัย

ความเย็นสลายไขมันอย่างไร ?

พวกเราหลายคนมีไขมันส่วนเกินที่ยากจะขจัดไขมันทิ้ง แม้จะควบคุมอาหาร และออกกาลังกายแล้วก็ตาม
 
เทคโนโลยี CoolSculpting® ใช้วิธีให้ความเย็นผ่านระบบควบคุมเพื่อกำจัดเซลล์ไขมันเหล่านี้
 
อีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมาร่างกาย จะย่อยสลายไขมันและกาจัดเซลล์ที่ตายแล้วเหล่านี้ตามธรรมชาติ
 
CoolSculpting ให้ผลระยะยาว เนื่องจากเซลล์ไขมันที่ผ่านการย่อยสลายแล้วจะหายไปตลอดกาล
 
วันที่ 1 :  หน้าท้องและสะโพก
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
  สัปดาห์ที่ 12 :  หน้าท้องและสะโพก
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 


วิธีที่ร่างกายแปรรูปไขมันจากอาหาร


 


 
 

วิธีที่ร่างกายแปรรูปเซลล์ไขมันที่ผ่านขั้นตอนการรักษาแล้ว


 


 


 


 
 

เซลล์ไขมันหลังจากน้ำหนักลดลง


A) เกิดอะไรขึ้นเมื่อน้ำหนักของคุณลดลง (หรือเพิ่มขึ้น)
เมื่อน้ำหนักของคุณลดลง ปริมาตรของเซลล์ไขมันจะลดลงแต่มีจำนวนเท่าเดิม
 
B) เกิดอะไรขึ้นหลังจากคุณผ่านการรักษาด้วยวิธี CoolSculpting
หลังจากรักษาแล้วเซลล์ไขมันที่ได้รับความเย็นจะถูกกำจัดทิ้งอย่างถาวร คุณจึงมีจำนวนเซลล์ไขมันลดลงในบริเวณที่ทำการรักษา บริเวณที่ไม่ได้รับการรักษาจะมีการกระจายตัวของเซลล์ไขมันเช่นเดิม
 

วันที่คุณเข้ารับการรักษา
  • คุณมีร่างกายและความต้องการเฉพาะของตนเอง ดังนั้นในระหว่างให้คำปรึกษาแพทย์จะวางแผนการรักษาให้คุณโดยเฉพาะ เพื่อดูว่ามีบริเวณใดที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ
  • แผนการรักษาอาจมีขั้นตอนหลายอย่าง (หรือต้องพบแพทย์หลายครั้ง)
  • ระหว่างการรักษาจะมีการใช้แผ่นเจลและหัวดูดสูญญากาศในบริเวณเป้าหมาย
    • หัวดูดสูญญากาศจะดึงเนื้อเยื่อเข้าไปในถ้วยของหัวดูด
    • หัวดูดสำหรับส่วนผิวจะต้องวางให้มั่นคงในบริเวณที่จะรักษา
  • หัวดูดทั้งหมดจะส่งความเย็นผ่านระบบควบคุมไปยังไขมันที่ระบุเป้าไว้



วันที่คุณเข้ารับการรักษา
Treatment to Transfomation เป็นแนวทางการรักษาด้วยวิธี CoolSculpting®  ที่มีการกำหนดจำนวนครั้งและการรักษาที่เหมาะสมสำหรับบริเวณต่างๆ ของร่างกาย ที่คุณต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง ผลที่ได้จะเป็นเช่นไร คุณมีรูปร่างได้สัดส่วนตามต้องการ


 
  • วิธีการรักษารอบทิศทาง 360 องศาแบบเบ็ดเสร็จ ออกแบบมาเพื่อให้การรักษาด้วยวิธี CoolSculpting® ได้ผลดี
  • แผนสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย ความต้องการ รูปร่าง และเป้ายหมายของคุณ
  • คำแนะนำทางคลินิก สำหรับบริเวณที่ควรักษาและจำนวนครั้งที่ทำ

หลังจากที่คุณได้รับการรักษา
  • ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลังจากรักษาด้วยวิธี CoolSculping®
  • การเปลี่ยนแปลงอาจเห็นได้เร็วภายในสามสัปดาห์ หลังจากการรักษา โดยจะเห็นผลได้ชัดเจน ภายในหนึ่งถึงสามเดือน
  • น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะไม่ทำให้คุณอ้วนจนเต็มพิกัดเช่นเดิม การรักษากิจวัตรในการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และออกกำลังกายหลังจากรักษาด้วยวิธี CoolSculpting® แล้ว จะช่วยป้องกันเรื่องนี้ได้
  • ผู้ให้บริการของคุณจะทำตารางนัดเพื่อติดตามผล โดยจะประเมินผลที่เกิดขึ้นกับคุณ ถ่ายรูป และหารือเพื่อรักษาเพิ่มเติมถ้าจำเป็น



 
วันที่ 1
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
8 สัปดาห์
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
17 สัปดาห์
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)

ตำแหน่งที่แสดงเป็นตำแหน่งโดยประมาณ

วันที่ 1
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
12 สัปดาห์
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
24 สัปดาห์
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)

ตำแหน่งที่แสดงเป็นตำแหน่งโดยประมาณ

 
วันที่ 1
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
12 สัปดาห์
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
24 สัปดาห์
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)

ตำแหน่งที่แสดงเป็นตำแหน่งโดยประมาณ

 
วันที่ 1
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
8 สัปดาห์
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
ตำแหน่งที่แสดงเป็นตำแหน่งโดยประมาณ

 
วันที่ 1
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
20 สัปดาห์
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
ตำแหน่งที่แสดงเป็นตำแหน่งโดยประมาณ

 
วันที่ 1
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
16 สัปดาห์
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)

ตำแหน่งที่แสดงเป็นตำแหน่งโดยประมาณ

 
วันที่ 1
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
5 สัปดาห์
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
ตำแหน่งที่แสดงเป็นตำแหน่งโดยประมาณ

วันที่ 1
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
10 สัปดาห์
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
ตำแหน่งที่แสดงเป็นตำแหน่งโดยประมาณ

 
วันที่ 1
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
16 สัปดาห์
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
ตำแหน่งที่แสดงเป็นตำแหน่งโดยประมาณ

 
วันที่ 1
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
20 สัปดาห์
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
ตำแหน่งที่แสดงเป็นตำแหน่งโดยประมาณ

 
วันที่ 1
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
12 เดือน
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
24 เดือน
(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)

ตำแหน่งที่แสดงเป็นตำแหน่งโดยประมาณ

ข้อมูลด้านความปลอดภัยที่สำคัญ
  • Cryoglobulinemia
  • Paroxysmal cold hemoglobinria
  • ตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร
 

ใช้ความระมัดระวังก่อนให้ความเย็นเฉพาะจุดภายใต้สภาวะต่อไปนี้ เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาผลกะทบที่เกิดขึ้น
  • อาการไวต่อความเย็นที่ทราบกันดี เช่น ลมพิษที่เกิดจากความเย็น หรือโรคเรย์นอยด์ (Raynaud’s disease)
  • การไหลเวียนของหลอดเลือดส่วนปลายทางบกพร่องในบริเวณที่ทำการรักษา
  • ความผิดปกติที่ระบบประสาท เช่น อาการปวดปลายประสาทหลังจากเป็นงูสวัด (post-herpetic neuralgia) หรือโรคเส้นประสาทเหตุเบาหวาน (diabetic neuropathy)
  • การรับรู้ความรู้สึกที่ผิวหนังบกพริอง
  • แผลเปิดหรือติดเชื้อ
  • ภาวะเลือกออกผิดปกติ (Bleeding disorders) หรือการใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือดร่วมกัน
  • แผลที่เพิ่งผ่าตัดหรือเนื้อเยื่อที่เป็นแผลเป็นบริเวณที่จะรักษา
  • ไส้เลื่อนในบริเวณหรือใกล้กับจุดที่จะรักษา
  • สภาพของผิว เช่นโรคเรื้อนกวาง ผิวหนังอักเสบ ผื่น ในบริเวณที่จะรักษา
  • ปัจจุบันยังไม่ทราบถึงผลกระทบของการรักษาที่ส่งผลโดยตรงต่ออุปกรณ์เทียมที่ติดตั้งในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ (pacemakers) และเครื่องกระตุกหัวใจ (defibrillators)

 
หลังจากที่คุณได้รับการรักษา
ผลกระทบต่อไปนี้อาจเกิดขึ้นได้ในบริเวณที่ทำการรักษา ทั้งในระหว่างหรือหลังจากรักษาแล้ว ผลกระทบดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและโดยทั่วไป จะทุเลาลงภายในเวลาไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์

ระหว่างรักษา
  • รู้สึกเหมือนถูกดึง ถูกลาก และเจ็บแปลบเล็กน้อย
  • เย็นจัด เจ็บแปลบๆ แสบ ปวด เป็นตะคริว ความรู้สึกดังกล่าวจะลดลง เมื่อบริเวณดังกล่าวเริ่มชา

หลังจากที่คุณได้รับการรักษา
  • มีรอยแดงและเป็นก้อนแข็ง
  • ผิวซีดขั่วขณะและ / หรือฟกช้ำเล็กน้อยตามขอบรอบๆ บริเวณที่ทำการรักษา
  • เจ็บแปลบๆ และแสบ

หลังจากที่คุณได้รับการรักษา
  • มีรอยแดง ฟกช้ำ และบวม
  • กดเจ็บ เป็นตะคริว และปวด
  • คัน ผิวแพ้ง่าย เจ็บแปลบๆ และชา
  • อาจมีอาการชาไปอีกสองสามสัปดาห์หลังจากรักษา

หลังจากที่คุณได้รับการรักษา
  • เซลล์เพิ่มจำนวนผิดปกติ (Paradoxical hyperplasia) : เนื้อเยื่อเพิ่มปริมาณขึ้นจนมองเห็นได้ในบริเวณที่รักษา ซึ่งอาจเกิดขึ้นสองถึงห้าเดือน หลังจากรักษา อาจจำเป็นต้องใช้วิธีผ่าตัดช่วย
  • อาการปวดตั้งแต่ต้น - ภายหลัง ซึ่งตามปกติจะเริ่มสองสามวันหลังจากรักษา และจะทุเลาลงภายในสองสามสัปดาห์
  • ผิวไหม้จากความเย็น : ผิวอาจไหม้จากความเย็นระดับหนึ่งถึงสององศาได้ระหว่างทำการรักษา ตามปกติมักจะทุเลาลงโดยไม่มีโรคแทรกซ้อนเมื่อได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
  • อาการหน้ามืดเป็นลม : วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ หน้าแดง เหงื่อออก หรือเป็นลม ระหว่างหรือทันทีหลังจากการรักษา
  • การแข็งตัวของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง : เนื้อบริเวณที่รักษาแข็งตัวและ / หรือแข็งเป็นก้อนเล็กๆ หลังจากรักษาและอาจเกิดขึ้นควบคู่กับอาการปวดและ / หรืออึดอัดไม่สบายตัว
  • สีผิวเข้มขึ้น (Hyperpigmentation) : สีผิวเข้มขึ้นหลังจากรักษา ตามปกติอาการจะทุเลาลงเอง
  • ไส้เลื่อน : การรักษาอาจทำให้เกิดไส้เลื่อนที่ใหม่ หรือไส้เลื่อนที่เป็นอยู่มีอาการทรุดลง ซึ่งอาจแก้ไขด้วยการผ่าตัด

(หมายเหตุ :  "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล”)
 
   

แชทผ่าน Facebook
แชทผ่าน Line
โทรศัพท์