แดด.....ศัตรูตัวฉกาจของคนรักผิวเพราะนอกจากแดดจะทำให้เกิดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ เช่น กระ, ฝ้า, ผิวไหม้ แพ้แดดแล้ว แสงแดดยังทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยเร็วขึ้นด้วย ดังนั้นเราจึงควรทาครีมกันแดดทุกวันให้เป็นนิสัย ปัญหาคือ เราจะเลือกครีมกันแดดอย่างไรจึงเหมาะกับ สภาพผิว? เป็นคำถามที่หมอถูกถามบ่อยจากคนไข้ที่รักษาปัญหาสิวดีขึ้นแล้วค่ะ |
ครีมกันแดด (Sunscreen) แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. ครีมกันแดดประเภทเคมี (chemical Sunscreen) เป็นครีมกันแดดที่มีสารดูดซับรังสี UV (Ultraviolet) จากแสงแดดเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนสลายไป ไม่ผ่านลงไปทำอันตรายต่อผิวเรา 2. ครีมกันแดดกายภาพ (Physical Sunscreen หรือ Non-Chemical Sunscreen) เป็นครีมกันแดดที่ออกฤทธิ์โดย Block หรือสกัดกั้นรังสี UV ไว้และสะท้อนรังสีกลับไม่ให้ผ่านเข้าสู่ผิว |
ทีนี้เรามาดูกันว่าครีมกันแดดทั้ง 2 ชนิด มีข้อดี-ข้อเสีย ต่างกันอย่างไรบ้าง? และเราจะเลือกใช้ครีมกันแดดอย่างไหนดีกว่ากัน? Physical Sunscreen
Chemical Sunscreen
|
เราลองมาดูว่า SPF และ PA คืออะไร? รังสียูวีในแดด มี 2 ชนิด
|
SPF ค่านี้ หมายถึงว่า เมื่อทาครีมกันแดดแล้วทำให้ผิวทนต่อแสงแดด ไม่เกิดอาการแสบแดงหรือไหม้ ได้นานเป็นกี่เท่าของผิวปกติที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด : ยกตัวอย่าง เช่น หากเราอยู่กลางแจ้ง หรือโดนแดดประมาณ 15 นาที ผิวจะเริ่มแดง เมื่อใช้ครีมกันแดด SPF 15 จะสามารถปกป้องผิวได้นาน 15 เท่า คิดเป็นเวลาได้นาน 15x15 =225 นาที หรือประมาณ 4 ชั่วโมง |
ส่วนค่าซึ่งบอกประสิทธิภาพป้องกัน UVA คือ PA (Protection Factor For UVA) : PA มีค่าแสดงจาก น้อย (+) ถึงมาก (+++) ดังนั้นครีมกันแดด ที่มีค่า PA สูง (+++) ก็จะช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นและรอยคล้ำบริเวณผิวจาก UVA ได้ |
สิ่งที่หมอเล่ามาตั้งยาวเพื่อจะบอกว่าครีมกันแดดที่ดี คือ ครีมกันแดดป้องกันได้ทั้ง UVA (ป้องกันการเหี่ยวย่น) และ UVB (ป้องกันมะเร็งผิวหนัง) ส่วนการเลือกครีมกันแดดสำหรับน้องๆ ที่เป็นสิวง่าย ซึ่งถ้าส่วนใหญ่ผิวมันด้วย
|
ทีนี้น้องๆ ที่เป็นสิวง่ายคงเลือกใช้ครีมกันแดดได้มั่นใจขึ้นแล้วนะคะ ถ้ายังมีข้อข้องใจอื่น ๆ เกี่ยวกับสารกันแดด สามารถมาปรึกษาหมอที่ 55th Clinic, Silom Complex ได้ทุกเมื่อคะ เรียบเรียงบทความโดย : พญ. สุรัติ อัศวานุชิต แพทย์ผู้บริหารและแพทย์ประจำ 55th Clinic, Silom Complex |
แดด.....ศัตรูตัวฉกาจของคนรักผิวเพราะนอกจากแดดจะทำให้เกิดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ เช่น กระ, ฝ้า, ผิวไหม้ แพ้แดดแล้ว แสงแดดยังทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยเร็วขึ้นด้วย ดังนั้นเราจึงควรทาครีมกันแดดทุกวันให้เป็นนิสัย ปัญหาคือ เราจะเลือกครีมกันแดดอย่างไรจึงเหมาะกับ สภาพผิว? เป็นคำถามที่หมอถูกถามบ่อยจากคนไข้ที่รักษาปัญหาสิวดีขึ้นแล้วค่ะ |
ครีมกันแดด (Sunscreen) แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. ครีมกันแดดประเภทเคมี (chemical Sunscreen) เป็นครีมกันแดดที่มีสารดูดซับรังสี UV (Ultraviolet) จากแสงแดดเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนสลายไป ไม่ผ่านลงไปทำอันตรายต่อผิวเรา 2. ครีมกันแดดกายภาพ (Physical Sunscreen หรือ Non-Chemical Sunscreen) เป็นครีมกันแดดที่ออกฤทธิ์โดย Block หรือสกัดกั้นรังสี UV ไว้และสะท้อนรังสีกลับไม่ให้ผ่านเข้าสู่ผิว |
ทีนี้เรามาดูกันว่าครีมกันแดดทั้ง 2 ชนิด มีข้อดี-ข้อเสีย ต่างกันอย่างไรบ้าง? และเราจะเลือกใช้ครีมกันแดดอย่างไหนดีกว่ากัน? Physical Sunscreen
Chemical Sunscreen
|
เราลองมาดูว่า SPF และ PA คืออะไร? รังสียูวีในแดด มี 2 ชนิด
|
SPF ค่านี้ หมายถึงว่า เมื่อทาครีมกันแดดแล้วทำให้ผิวทนต่อแสงแดด ไม่เกิดอาการแสบแดงหรือไหม้ ได้นานเป็นกี่เท่าของผิวปกติที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด : ยกตัวอย่าง เช่น หากเราอยู่กลางแจ้ง หรือโดนแดดประมาณ 15 นาที ผิวจะเริ่มแดง เมื่อใช้ครีมกันแดด SPF 15 จะสามารถปกป้องผิวได้นาน 15 เท่า คิดเป็นเวลาได้นาน 15x15 =225 นาที หรือประมาณ 4 ชั่วโมง |
ดังนั้นครีมกันแดด ที่มีค่า PA สูง (+++) ก็จะช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นและรอยคล้ำบริเวณผิวจาก UVA ได้ ส่วนค่าซึ่งบอกประสิทธิภาพป้องกัน UVA คือ PA (Protection Factor For UVA) : PA มีค่าแสดงจาก น้อย (+) ถึงมาก (+++) |
สิ่งที่หมอเล่ามาตั้งยาวเพื่อจะบอกว่าครีมกันแดดที่ดี คือ ครีมกันแดดป้องกันได้ทั้ง UVA (ป้องกันการเหี่ยวย่น) และ UVB (ป้องกันมะเร็งผิวหนัง) ส่วนการเลือกครีมกันแดดสำหรับน้องๆ ที่เป็นสิวง่าย ซึ่งถ้าส่วนใหญ่ผิวมันด้วย
|
ทีนี้น้องๆ ที่เป็นสิวง่ายคงเลือกใช้ครีมกันแดดได้มั่นใจขึ้นแล้วนะคะ ถ้ายังมีข้อข้องใจอื่น ๆ เกี่ยวกับสารกันแดด สามารถมาปรึกษาหมอที่ 55th Clinic, Silom Complex ได้ทุกเมื่อคะ เรียบเรียงบทความโดย : พญ. สุรัติ อัศวานุชิต แพทย์ผู้บริหารและแพทย์ประจำ 55th Clinic, Silom Complex |