โบท็อกซ์ เป็นชื่อทางการค้าของสาร Botulinum toxin type A ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการหลั่งสาร Acetylcholine ที่ปลายประสาท ทำให้กล้ามเนื้อเล็กๆในบริเวณนั้นไม่สามารถหดตัวได้ชั่วคราว ริ้วรอยย่นจึงลดลง การฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอย เหี่ยวย่น จะเริ่มสังเกตการเปลี่ยนแปลงประมาณ 3-7 วันหลังฉีดและคงผลอยู่นาน 3-4 เดือน ทั้งนี้ผลการรักษาแตกต่างกันได้บ้างในแต่ละบุคคล
ที่ 55
th Clinic ใช้ Botox จากบริษัท Allergan ซึ่งเป็น Botulinum toxin ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) และผ่านอย.ของประเทศไทยแล้ว
Botox คืออะไร ?Botox เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ ซึ่งสกัดได้จาก Botulinum toxin type A ลบริ้วรอยบริเวณหัวคิ้ว หนัาผากชั่วคราว รอยตีนกา ทำให้ผิวหนังด้านบนของกล้ามเนื้อเหล่านั้นเรียบขึ้น จึงมีการใช้สาร Botox กันอย่างแพร่หลายกว่า 70 ประเทศทั่วโลก มีการทดสอบการใช้ Botox เป็นเวลากว่า 12 ปี เพื่อยืนยันผลการรักษาในคนกว่าล้านคนทั่วโลก จากการรักาาทางการแพทย์ต่างๆ
เรื่องลบริ้วรอยทำไมต้อง Botox?
ริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้าเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งอายุที่เพิ่มขึ้นตามวัย การถูกแสงแดดบ่อยๆ ผลข้างเคียงจากการใช้เครื่องสำอางมากเกินไป ความเครียด และการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าเป็นประจำ เราสามารถทำให้ริ้วรอยที่ไม่พึงปรารถนาเหล่านั้นหายไปได้ด้วย Botox
ยับยั้งเหงื่อ ลดกลิ่นตัวง่ายๆ ด้วย Botox
เหงื่อออกมากผิดปกติ เป็นสาเหตุหนึ่งของกลิ่นตัว ก่อให้เกิดความไม่มั่นใจและผลกระทบต่อจิตใจในการดำเนินชีวิตประจำวัน ถึงแม้ว่ายังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน แต่ปัจจุบันมีวิธีรักษาที่ทำได้ง่าย ได้ผลดี และได้รับการยอมรับจากองค์การอาหารและยา นั่นคือ การฉีด Botox ใต้ผิวหนังบริเวณที่มีเหงื่อออกมากบริเวณรักแร้

( หมายเหตุ : "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล” )
การปฏิบัติตัวก่อนและหลังการฉีด Botox
ก่อน
- หยุดใช้ยากลุ่มกรดวิตามินเอ เอเอชเอ สครับขัดหน้า เป็นเวลา 1-2 วันก่อนการฉีดโบท็อกซ์
- หยุดการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ได้แก่ Brufen, Naproxen, Motrin วิตามินอี น้ำมันปลา จิง. โกะ เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เพื่อลดการเกิดฟกช้ำ
- งดแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการรักษา
- ถ้ามีประวัติของโรคเริมบริเวณริมฝีปาก ควรแจ้งแพทย์ก่อนรับการรักษา
หลัง
- อย่านวด กด หรือกระทำการอันใดที่จะมีผลต่อบริเวณที่รักษา เช่น สวมหมวก สวมหมวกกันน็อค หรือนวดหน้า
- อย่านอนราบหรือก้มหน้าเป็นเวลาสี่ชั่วโมง
- งดการอยู่ในที่ร้อน เช่น อบซาวน่า ปรุงอาหารหน้าเตาร้อนเป็นเวลาสี่ชั่วโมง
- รอยนูนจากการฉีดจะหายไปเองภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง
- งดเว้นการออกกำลังกายอย่างหนักหรือการเล่นโยคะเป็นเวลาสี่ชั่วโมงหลังการรักษา
- งดทายาหรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น กรดวิตามินเอ เอเอชเอ วิตมินซีเป็นเวลา 24 ชั่วโมงหลังการรักษา
- พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น
- สามารถใช้น้ำแข็งประคบในกรณีที่มีอาการบวมแดงหรือช้ำได้
- สามารถใช้เครื่องสำอางได้หลังการรักษาด้วนความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถู
- ผู้ป่วยจะเริ่มเห็นผลการรักษาใน 2-7 วัน และเห็นผลการรักษาสูงสุดในสองสัปดาห์
- กลับมาพบแพทย์เมื่อมีข้อสงสัยหรือสิ่งผิดปกติใดๆ

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไปในผิวหนัง เพื่อเติมเต็มริ้วรอย,ร่องลึกต่างๆ ให้ตื้นขึ้น และบริเวณที่ต้องการให้มีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยไม่ผ่าตัด เช่น ร่องแก้ม และคาง หลังฉีดสารเติมเต็มคงผลอยู่นาน 6 เดือน-1ปี โดยที่ 55th Clinic ใช้สารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) และผ่านอย.ของประเทศไทยแล้ว ทั้งนี้ผลการรักษาและความคงทนอยู่นาน ของสารเติมเต็มแตกต่างกันได้บ้างในแต่ละบุคคล
ที่ 55th Clinic ใช้สารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) : Juvederm ซึ่งเป็นFiller ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) และผ่านอย.ของประเทศไทยแล้ว
Juvederm ส่วนประกอบ Cross-Linked hyaluronic acid 24 mg, Phosphate buffer pH 7.2 q.s 1 g
ข้อบ่งใช้
Juvederm สามารถฉีดเข้าไปในเนื้อเยื่อสำหรับเติมเต็มรอยบุ๋มขนาดปานกลางของผิวหนัง โดยฉีดเข้าชั้น mid-dermis นอกจากนี้ยังมีข้อบ่งใช้สำหรับการเพิ่มหรือเติมเต็มริมฝีปาก (pouting of lips)
( หมายเหตุ : "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล" )
ข้อห้ามใช้
- ห้ามฉีด Juvederm ที่เปลือกตา
- การใช้ Juvederm Ultra บริเวณพื้นที่ใต้นัยน์ตา (under-eye) ต้องใช้โดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการ. ฝึกฝนมาเป็นอย่างดีซึ่งมีความรู้ด้านสรีรวิทยาบริเวณนั้นเป็นพิเศษ
- ห้ามฉีดเข้าหลอดเลือด
- ห้ามฉีดเกินความเหมาะสม (overcorrect)
- ไม่ใช่ Juvederm สำหรับ
- คนไข้ที่มีแนวโน้มในการเกิดแผลเป็นชนิด hypertrophic scar
- คนไข้ที่แพ้ hyaluronic acid
- สตรีที่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- เด็ก
- ไม่ใช่ Juvederm กับผิวหนังที่กำลังมีการอักเสบ และ/หรือกำลังติดเชื้อ (สิว, herpes เป็นต้น)
- ไม่ควรใช้ Juvederm พร้อมกับเลเซอร์ในการขัดผิวเพื่อให้ผิวเรียบ (deep chemical peels or dermabration) สำหรับผิวหนังชั้นนอก (surface peels) ไม่แนะนำให้ฉีดยานี้หากเกิดการอักเสบขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
วิธีการใช้ยา
ผลิตภัณฑ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อการฉีดเข้าชั้นหนังแท้ (dermis) หรือเยื่อบุผิวของริมฝีปาก (mucous membrane of the lips) โดยแพทย์สามารถใช้ nap page technique กับผลิตภัณฑ์นี้ ความเที่ยงตรงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การรักษาประสบผลสำเร็จ ผลิตภัณฑ์นี้จะต้องถูกใช้โดยแพทย์ผู้ชำนาญการที่ได้รับการฝึกฝนเทคนิคในการฉีดมาเป็นอย่างดี
( หมายเหตุ : "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล" )
อาการไม่พึงประสงค์
- การอักเสบ ( แดง บวม ผื่นแดง เป็นต้น) ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการคันหรือปวด (pain on pressure) หรือทั้งคู่ ซึ่งเกิดหลังการฉีดยา อาการนี้อาจเกิดหลังการฉีดยา 1 สัปดาห์
- ห้อเลือด เลือดจับก้อนตามช่องต่างๆ (haematomas)
- เกิดการแข็งตัวของเนื้อเยื่อ (induration) หรือปุ่ม (nodules) บริเวณที่ฉีดยา
- ได้ผลที่ไม่ดีหรือไม่เต็มที่
- คนไข้จะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบทันทีถึงอาการอักเสบเรื้อรังที่เป็นมานานกว่า 1สัปดาห์ หรืออาการข้างเคียงอื่นๆ ซึ่งเกิดขึ้น แพทย์ต้องให้การรักษาอย่างเหมาะสม
คำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังได้รับ Juvederm Ultra, Juvederm Ultra Plus และ Juvederm XC ชนิดกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acid)
การปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์จากการฉีด Juvederm
- ภายใน 12 ชั่วโมงแรก งดการใช้เครื่องสำอางแต่งหน้า
- ภายใน 2 สัปดาห์แรก เลี่ยงการอยู่ในที่ร้อนจัด เช่น การตากแดดเป็นเวลานาน หรืออบซาวน่า และเลี่ยงการอยู่ในที่เย็นจัด เช่น การเล่นสกี
- หลังฉีด Juvederm แพทย์จะนัดให้คุณมาพบอีกครั้งภายใน 1-2 สัปดาห์ เพื่อตรวจติดตามผล และอาจมีการฉีด Juvederm เพิ่มในกรณีที่จำเป็น
- หลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณที่ฉีด
สังเกตอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น - คุณควรรีบแจ้งให้แพทย์ทราบหากเกิดอาการเหล่านี้
- การอักเสบ (บวม แดง ผื่นขึ้น) หรืออาการปวดซึ่งอาจเกิดขึ้นหลังการฉีด 1 สัปดาห์
- อาการห้อเลือด เนื้อเยื่อแข็งตัว ผิวหนังเปลี่ยนสี หรืออาการผิดปกติอื่นใดซึ่งเรื้อรังนานเกินกว่า 1 สัปดาห์
- Juvederm จะมีประสิทธิภาพอยู่ได้นั้น ขึ้นกับผู้ป่วยแต่ละราย ผู้ป่วยจึงยังควรเข้าพบแพทย์เป็นระยะ
ขอขอบคุณข้อมูลจากบริษัทAllergan
และขอขอบคุณคนไข้ เจ้าของภาพทุกท่านที่อนุญาตให้ประชาสัมพันธ์การรักษา&เข้ารับบริการที่ 55
th Clinic
มาทำความเข้าใจ"Botox"กับหมอนุ่มค่ะ ;)
สวัสดีค่ะ หมอนุ่มนะคะ พอดีช่วงนี้มีคำถามเข้ามาเยอะเกี่ยวกับเรื่องการฉีด botox นะคะ วันนี้หมอเลยจะมาอธิบายให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องของ botox ค่ะ
Botox คืออะไร
Botox เป็นชื่อทางการค้าของสาร Botulinum toxin type A ซึ่งเป็นโปรตีนที่สกัดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Clostidiumbotulinum
สาร Botulinum toxin มีฤทธิ์ในการยับยั้งการทำงานของปลายประสาท บริเวณกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว โดย Botox จะเริ่มออกฤทธิ์ประมาณ 2-3 วันหลังฉีด และออกฤทธิ์เต็มที่ประมาณ 7-14 วันหลังฉีดค่ะ (หมายเหตุ : "ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล” )
ประโยชน์ของ Botox
ปัจจุบันแพทย์ได้นำ สาร Botulinum toxin มาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น
- การนำมาใช้ในการรักษาโรค ตาเหล่ ตาเข
- โรคสมองพิการแบบ cerebral palsy
- โรคปวดศีรษะไมเกรน
- ลดเหงื่อบริเวณรักแร้ หรือฝ่ามือในผู้ที่มีภาวะเหงื่อออกมาก

นอกจากนี้ยังมีการนำสาร Botulinum toxin มาใช้ประโยชน์ในทางความสวยงาม เช่น
- การลดริ้วรอยบริเวณใบหน้า โดยการลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว รอบดวงตา
- นำมาฉีดบริเวณกรามเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
- นำมาฉีดบริเวณเหนียงที่คอเพื่อยกกระชับผิวหนัง และอื่นๆอีกมากมาย
ผลข้างเคียงของการฉีด Botox
- ผลข้างเคียงจากการฉีด botox อาจมีจุดเลือดออกในบริเวณที่ฉีดยา ซึ่งสามารถหายเองได้ในเวลา 1-2 สัปดาห์
- นอกจากนี้อาจมีเรื่องหนังตาตก หลับตาไม่สนิท ยิ้มมุมปากตก ได้หากสาร Botulinum toxin กระจายไปโดนกล้ามเนื้อบางบริเวณ แต่ผลข้างเคียงเหล่านี้จะหายไปเองได้ในระยะเวลาไม่นาน และสามารถแก้ไขได้โดยการใช้เครื่องกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณนั้น
ผู้ที่มีข้อห้ามในการฉีด botox
ไม่แนะนำให้ใช้ botox ในหญิงตั้งครรภ์ หรือมารดาที่ให้นมบุตร ค่ะ
การปฏิบัติตัวหลังฉีด botox
- หลังฉีดห้ามนอนราบ
- งดเว้นการออกกำลังกายอย่างหนักหรือเล่นโยคะ เป็นเวลา 4 ชั่วโมง
- ห้ามนวดหรือกดบริเวณที่ฉีดยา
- ห้ามเข้า Sauna Steam
- งดทำเลเซอร์อย่างน้อยเป็นเวลา 2 สัปดาห์นะคะ

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ 55th Clinic ชั้น 3 Silom Complex นะคะ
ขอบคุณ บทความโดย :
คุณหมอนุ่ม (พญ. ชมเพลิน เสี้ยนสลาย) แพทย์ประจำ 55th Clinic
เวลาตรวจ : ทุกวันจันทร์ 16.00-20.00 น.
และขอบคุณเครดิตภาพประกอบบางส่วนจากอินเตอร์เน็ต
รีวิวการปรับรูปหน้าให้มีมิติด้วยสารเติมเต็ม ( ฟิลเลอร์ )
( โดยคุณชิ้ง Beauty Blogger ประจำ Sanook Woman )
( Cr: ขอบคุณทีมงานจาก My Beauty Plan Channel และบริษัท Allergan Thailand ไว้ ณ ที่นี้นะคะ )
คุณหมอเชอร์รี่และคุณหมอจุ๊ยได้รับเชิญจากบริษัท Allergan ,Thailand มารับ Trophy รางวัล Award of Appreciation 2017 และร่วมงาน The Trust of Beauty ณ Centara Grand and Bangkok Convention Centre ,Central World ค่ะ
โดยที่ทีม 55th Clinic ได้รับเชิญมาร่วมงานเนื่องจากที่คลินิกเราดูแลลดริ้วรอย โดยใช้โบทูลินั่ม ท็อกซินเอ หรือที่เรารู้จักกันว่า โบท็อกซ์ จาก USA และดูแลโดยคุณหมอทุกครั้งค่ะ